ฉันดีกว่าเดิม
มุ่งสร้างนิสัยเชิงบวก
หมั่นพัฒนาตนเอง
เน้นความสุขและศักยภาพคน
คนเรา 'สามารถ' เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้เสมอ
มุ่งสร้างนิสัยเชิงบวก
หมั่นพัฒนาตนเอง
เน้นความสุขและศักยภาพคน
คนเรา 'สามารถ' เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้เสมอ
What is Deep Listening? By Joe Bailey (Licensed Psychologist) http://www.selfgrowth.com/articles/what_is_deep_listening.html ใส่ใจรับฟัง / ฟังอย่างลึกซึ้ง / ตั้งใจฟัง คืออะไร?“ตอบสนองต่ออารมณ์ให้ช้าลง แล้วจะพบความรักเร็วขึ้น” ฟังอย่างลึกซึ้งจะเกิดขึ้นเมื่อจิตใจของคุณเงียบสงบ สุขุม ไตร่ตรอง ความคิดของคุณไหลรื่นอ่อนโยน และมิได้กำลังถูกรบกวนหรือถูกทำให้ไขว้เขวโดยสิ่งลวงใจ อาทิ การตีความ การตัดสินว่ามีค่า/ด้อยค่า ความใจเร็วด่วนสรุป หรือสมมติฐานคิดเองเออเอง เมื่อคุณตั้งใจฟัง จิตใจของคุณจะเมตตาเปิดกว้างให้กับทุกสิ่ง สนใจใคร่รู้ –ราวกับว่าคุณเพิ่งได้ยินคนคนนี้พูดเป็นครั้งแรก การใส่ใจรับฟังใช้ได้ดีเมื่อคุณกำลังสื่อสารกับอีกคน แต่ความดี๊ดีของการตั้งใจฟังไม่ใช่แค่นั้น การฟังอย่างลึกซึ้งยังใช้ได้ผลดีเมื่อคุณกำลังฟังตัวเอง ฟังชีวิต ฟังความเป็นมนุษย์ เป้าหมายของการใส่ใจรับฟังคือ คุณได้ยินความลึกล้ำเหนือถ้อยคำของอีกคนหรือเหนือคำพูดของคุณเอง คุณกำลังฟังว่าคำพูดและความรู้สึกกำลังบ่งบอกถึงสาระสำคัญใด จิตใจและความรู้สึกของคุณถูกผนวกเข้าด้วยกัน –คุณกำลังเต็มใจรับฟัง การตั้งใจฟังแทบไม่ต้องฝืนพยายามเลย มันจะเหมือนการฟังเพลงบรรเลงสบายอารมณ์ ฟังดนตรีคลาสสิก ฟังเสียงน้ำไหลริน หรือเสียงนกร้องยามเช้า เมื่อเราฟังเสียงต่างๆ ด้วยอาการผ่อนคลาย เราหลุดออกจากความกดดัน เราไม่ได้กำลังวิเคราะห์หาทางออกหรือไม่คิดว่านี่เป็นปัญหา –เราแค่ปล่อยให้ความรู้สึกและเสียงต่างๆ คลอเคล้าเราเบาๆ การใส่ใจรับฟังไม่ใช่การปกป้องตัวเอง การโต้เถียงใครถูกใครผิด อะไรดีอะไรเลว หรือวู่วามก้าวร้าว การตั้งใจฟังไม่ใช่อาการคร่ำเคร่ง คิดวนซ้ำซาก หมกหมุ่นวิเคราะห์ตีความ แต่เป็นสภาวะที่จิตใจสงบพอที่จะยอมรับสิ่งต่างๆ ตามจริง ในสภาวะที่กำลังใส่ใจรับฟังกัน เราตระหนักว่าเราเป็นหนึ่งเดียวกัน เราไม่ได้ถูกทิ้งให้รู้สึกโดดเดี่ยวแปลกแยก เราเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน –เรามีเรา เมื่อเราฟังอย่างลึกซึ้ง เราจะปล่อยวางความเชื่อที่เรามีต่ออีกคน เราจะปล่อยวางอคติ และจะปล่อยวางความทรงจำในอดีตที่เรามีต่อเขาหรือเธอ ตัวอย่างการตั้งใจฟังในทางปฏิบัติวันหนึ่ง Julie และ Jeff กำลังคุยกันว่าจะไปเจอะเจอเยี่ยมเยียนคู่รักอีกคู่ที่อาศัยอยู่ต่างเมือง เมื่อมีโอกาสทุกครั้ง Jeff จะยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดเสมอ ที่ผ่านมาเขารู้สึกว่า Julie ตั้งแง่ไม่ค่อยอยากจะออกไปเจอ แต่คราวนี้เธอเปิดประเด็น เธอพูดขึ้นว่า “เรามาคุยกันเรื่องไปหา Bob กับ Celeste เถอะ”
“ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจนักว่าอยากจะไปเจอพวกเขาไหม คุณกำลังจะพูดอย่างนี้ใช่ไหม?” Jeff ถาม “ก็ไม่เชิง ฉันไม่แน่ใจนักว่าฉันรู้สึกอย่างไร คุณให้เวลาฟังฉันสักหน่อยได้ไหม? ฉันอยากจะชัดเจนกับเรื่องนี้” “ได้ซิ” Jeff ปรับสภาพจิตใจของเขาเข้าสู่ความสงบนิ่งผ่อนคลาย หยุดคิดถึงวันที่จะได้เจอเพื่อนๆ และแค่อยู่กับเธอ ฟังเธอ เขากำลังเปิดใจยอมให้ตัวเขาเองมองเห็นความเป็นไปได้ใหม่ๆ เธอพูดว่า “ฉันก็อยากจะไปเจอพวกเขานะ แต่ฉันแค่รู้สึกว่าฉันอยากจะอยู่บ้านมากกว่า ณ ตอนนี้นะ หลังจากที่เราเดินทางท่องเที่ยวกันมาตลอดช่วงฤดูใบไม้ร่วง ฉันไม่สนใจและไม่อยากจะทำอะไรเลย แค่อยากอยู่บ้าน เป็นไปได้ไหมที่พวกเขาจะมาที่บ้านเรา? เราน่าจะบอกพวกเขาให้มาเจอกับเราที่นี่” “ก็ดีนะ ผมจะโทรหาพวกเขา และดูซิว่าเราจะได้เจอกับพวกเขาไหม? ผลออกมาปรากฏว่าเพื่อนของพวกเขาไม่ว่างมาเจอ ถ้าวันนั้นเขารบเร้าให้กำหนดวันที่จะออกไปเจอกับเพื่อนๆ มันอาจจะกลายเป็นเรื่องเสียอารมณ์หรือเสียเวลาเปล่า และที่สำคัญกว่า การที่เขาไม่กดดันให้ภรรยาทำตามใจเขา และการเปิดพื้นที่ให้ภรรยาได้พูด Julie รู้สึกว่า Jeff ได้ยินเธอ และเคารพความรู้สึกของเธอ ในอดีต Jeff อาจจะเคยจัดการกับสถานการณ์เช่นนี้ต่างออกไป เขาอาจจะคิดว่า “เธอ (แม่ง) ไม่อยากจะทำอะไรทั้งนั้นแหละ!” เขาอาจจะพยายามงัดเหตุผลต่างๆ นานามาชักจูงให้เธอจำใจทำ เช่น ที่นั่นอากาศอุ่นกว่าที่นี่นะ หรือ เพื่อนๆ อาศัยอยู่ใกล้ทะเลสวยๆ หรือเหตุผลใดๆ ก็ตามที่สนับสนุนความต้องการของเขา ในทางตรงกันข้าม ตั้งใจฟังจะทำให้ Jeff มีความสามารถเข้าใจและเคารพความรู้สึกของ Julie และเขาก็รู้สึกดีมากหลังจากที่พวกเขาพูดคุยกันได้ความกระจ่าง การฟังโดยไม่กดดันอีกฝ่ายช่วยให้ Julie แยกแยะความรู้สึกต่างๆ ที่เธอมี ซึ่งจะนำไปสู่ความเข้าใจที่ลึกซึ้งมากขึ้น และในขณะที่เขากำลังใส่ใจรับฟังเธอ Jeff ก็รู้สึกว่าเขากำลังมอบความรัก ความอบอุ่นปลอดภัย และความเงียบสงบให้แก่เธอ เพื่อให้เธอได้กลั่นกรองความรู้สึกที่แท้จริงออกมา ความสงบนิ่งจะช่วยให้ความคิดของเธอตกผลึก ปฏิสัมพันธ์ด้วยการฟังอย่างลึกซึ้งจะนำไปสู่ความสนิทใจกัน และเกิดเป็นเยื่อใยมิตรภาพผูกพัน Jeff กับ Julie การตั้งใจฟังช่วยให้ Jeff เห็นสถานการณ์เดิมแต่เป็นมุมมองใหม่ และยับยั้งไม่ให้เขาก้าวก่ายหวังให้ผลออกมาอย่างที่ตัวเองต้องการ การใส่ใจรับฟังช่วยให้ Julie คิดและรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเธอต้องการทำอะไรจริงๆ เป้าหมายของการฟังอย่างลึกซึ้ง (Deep Listening) คือสัมผัสหัวใจและความเป็นมนุษย์ของอีกฝ่าย และได้ยินสิ่งที่เขาหรือเธอต้องการจะสื่อ การใส่ใจรับฟังมีพื้นฐานอยู่บนความรู้สึกรักอย่างไม่มีเงื่อนไขและเคารพความเป็นมนุษย์ มีต้นกำเนิดมาจากความอ่อนโยนเมตตาซึ่งเป็นธรรมชาติปกติในตัวเรา เกิดมาจากความรักเหนือกาลเวลา การตั้งใจฟังทำให้คุณยั้งคิด เดินออกมาจากสิ่งลวงใจ แล้วเปลี่ยนไปเป็น 'เติมความรัก'
0 Comments
Leave a Reply. |
AuthorWrite something about yourself. No need to be fancy, just an overview. Archives
December 2019
Categories |