ฉันดีกว่าเดิม
มุ่งสร้างนิสัยเชิงบวก
หมั่นพัฒนาตนเอง
เน้นความสุขและศักยภาพคน
คนเรา 'สามารถ' เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้เสมอ
มุ่งสร้างนิสัยเชิงบวก
หมั่นพัฒนาตนเอง
เน้นความสุขและศักยภาพคน
คนเรา 'สามารถ' เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้เสมอ
คนที่มีทักษะในการจัดการความคิดที่ดี ก็จะสามารถดูแลใจตัวเอง จัดการตัวเองได้ดี ไปจนถึงสามารถที่จะใช้พลังชีวิตที่มีอยู่ในตัวเอง พาตัวเองเดินหน้าไปสู่จุดหมายได้อย่างยืดหยุ่นรื่นไหล ผมจะตอบคำถาม 3 ข้อใหญ่ๆ
โดยที่ผมใช้คำว่านิสัยขึ้นมาเพราะว่านิสัยมันเป็นเรื่องของความเคยชิน ถ้าเราทำอะไรจนเคยชินมันจะทำได้ง่ายขึ้น แต่เวลาที่เราทำอะไรใหม่ๆ ยังไม่เป็นนิสัยความเคยชิน เราจะยังไม่คล่อง ดังนั้นสิ่งที่เราคุยกันถ้าคุณค้นพบสิ่งใหม่ที่คุณอยากจะนำไปใช้กับชีวิตตัวเองดู ก็ขอให้ทราบว่าถ้าคุณใช้มันใหม่ๆ คุณจะยังไม่คล่องและยังจะเผลอกลับไปอยู่ในรูปแบบเดิม ตรงนั้นก็ไม่ต้องไปหงุดหงิดตัวเอง เป็นเรื่องปกติ เหมือนตอนที่คุณหัดขับรถยนต์ใหม่ๆ หัดขี่จักรยานใหม่ๆ หัดทำอะไรใหม่ๆ ทุกอย่าง คุณจะงุ่มง่าม คุณจะไม่ค่อยคล่องแคล่ว จนกระทั่งคุณได้ฝึกฝนให้นานเพียงพอ คุณก็จะคล่องแคล่วเอง นิสัยทางความคิดของคนก็เหมือนกัน ความคิดของคนมันก็มีเส้นวิ่งของมันที่เราใช้เป็นรูปแบบความเคยชินประจำตัว 6 รูปแบบความคิด คนที่คิดลบเป็นก็จะรอบคอบ คนที่คิดบวกได้ก็จะเห็นความเป็นไปได้ คนที่คิดด้วยความรู้สึกก็จะเข้าถึงจิตใจในส่วนลึก คนที่คิดด้วยข้อมูลและเหตุผลก็จะมีหลักฐานมาประกอบความคิดของตัวเอง ทุกๆ ความคิดรวมถึงความคิดสร้างสรรค์ ล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์ทั้งนั้น และเราควรจะเรียนรู้ที่จะฝึกความคิดในทุกรูปแบบ ที่จริงแล้วความคิดใดๆ ก็ตาม มันไม่ได้ ผิด/ถูก/ดี/เลว โดยตัวมันเอง แต่มันอยู่ตรงว่าเราหยิบมาใช้ในสถานการณ์ไหน หัวใจสำคัญก็คือ เราต้องรู้ว่าเรากำลังคิดด้วยวิธีไหนอยู่ แล้วหยิบชุดความคิดที่เป็นประโยชน์กับสถานการณ์นั้นมาใช้ การตั้งคำถามจะกำหนดวิธีคิดของคนเรา เราฝึกตั้งคำถามดีๆ ให้กับตัวเอง มันจะช่วยชี้นำ หรือนำร่องความคิดให้แก่เรา วิธีตั้งคำถามให้กับตัวเองจะเป็นการกำหนดความคิดของเรา เช่น ถ้าเราถามตัวเองว่า เรื่องนี้เราได้บทเรียนอะไร? เราก็จะคิดตามคำถามนั้นว่า มันมีบทเรียนอะไรให้เรา เรื่องนี้มีสิ่งอะไรดีๆ แฝงมาบ้าง? เราก็จะมองหาแง่ดี เหมือนอย่างกิจกรรมที่ผมแนะนำให้ทำประจำก็คือ วันนี้มีอะไรดีๆ เกิดขึ้นในชีวิต 5 อย่าง? การตั้งคำถามที่ดี จะเป็นตัวช่วยกำหนดเส้นทางความคิดเส้นใหม่ สวัสดีครับ ผมหมอประเวช เป็นจิตแพทย์
หัวข้อนี้ตั้งขึ้นมาจากการที่ผมพบว่าหลายคนที่ได้ฟังความรู้เรื่องการคิดบวกจากแหล่งต่างๆ มักจะมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนซึ่งก็คลาดเคลื่อนตั้งแต่คนรับ เช่น คนฟังทั่วไปไปจนถึงคนที่ออกมาพูดให้ความรู้ เพราะว่าขณะที่เรารับรู้กันว่าการคิดบวกเป็นเรื่องดีและมีประโยชน์ หลายคนก็ไม่รู้รายละเอียดว่าคิดบวกนั้นทำอย่างไร แล้วผลลบอย่างหนึ่งที่สำคัญมากก็คือ มันทำให้คนจำนวนมากที่มีความคิดลบ คิดว่าตัวเองผิดปกติที่มีความคิดลบ ซึ่งที่จริงแล้วความคิดลบมันมีอยู่ในสัญชาตญาณของเราและมันก็ฝังอยู่เป็นส่วนหนึ่งของความเป็นตัวเรา มันมีประโยชน์ในเชิงการอยู่รอดด้วย สัปดาห์ที่แล้วก็ได้คุยกันในเรื่องของความวิตกกังวลว่าเราจะจัดการอย่างไร แล้วก็ได้คุยกันถึงการจัดการองค์ประกอบต่างๆ ของความกังวล ซึ่งก็เป็นต้นแบบของความคิดลบ ถ้าเราใช้ให้ถูกต้อง เราก็จะได้รับประโยชน์จากความคิดลบนั้น จากนั้นก็มีโจทย์เข้ามา มีคนเริ่มถามเข้ามาว่าแล้วตกลงคิดบวกนี่มันดียังไง มันดีจริงไหม แล้วเราจะจัดความลงตัวระหว่างความคิดบวกและความคิดลบได้อย่างไร ผมก็ได้สรุปข้อความออกมาสั้นๆ ว่า ฝึกคิดบวกให้มากขึ้นแต่ว่าอย่ารังเกียจความคิดลบในใจตัวเอง เพราะเราไม่มีทางกำจัดความคิดลบให้หมดไปจากหัวของเราได้ และที่สำคัญธรรมชาติของความคิดของเราก็คือ อะไรก็ตามที่เราไม่อยากคิดถึงมัน เรากลับจะยิ่งคิดถึงมัน ตัวอย่างนี้ก็เห็นได้ชัด เวลาคุณมีเรื่องที่ไม่อยากคิดถึง คุณพยายามจะกลบมัน พยายามจะไม่คิดถึงมัน คุณก็หวนกลับไปคิดถึงมันอยู่เสมอเพราะว่ายิ่งพยายามจะไม่คิดถึงอะไร ใจของเราก็พยายามกลับไปคิดถึงเรื่องนั้นมากขึ้น ทุกคนคงมีประสบการณ์ตรง ถ้าอ่านตามหนังสือทั่วไปเขาก็จะเขียนว่า อย่าคิดถึงช้างสีชมพู อย่าคิดถึงตัวนั้นตัวนี้ อย่าคิดถึงผี คุณก็จะเริ่มคิดถึง คุณไปอยู่ในที่เงียบๆ มืดๆ แล้วคุณก็บอกว่าอย่าคิดถึงผีนะ เอาล่ะครับ เดี๋ยวคุณจะเริ่มคิดถึงผีขึ้นมา แล้วความกลัวก็จะวิ่งตามมา
0 Comments
|
AuthorWrite something about yourself. No need to be fancy, just an overview. Archives
December 2019
Categories |